วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2559

ไทยเที่ยวพม่า ตอน: เดินตลาดสดพบ(แป้ง)ทานาคาแล้วพากันไปพิพิธภัณฑ์

บางคนอาจจะสงสัยว่า ไปพม่าทั้งทีไปดูตลาดสดทำไม บ้านไทยก็มี แล้วกะอีแค่แป้งพม่าจะน่าสนใจอะไรหนักหนา มา มา มา มาดูกันเลย จะได้หายสงสัย



ทางเดินนอกตลาดสดขายผลไม้กับดอกไม้สดๆสวยๆ
            เรื่องมันมีอยู่ว่า วันที่ 14 มีนาคม 2558 มีคิวไปปีนเจดีย์สูงเพื่อดูทะเลเจดีย์ของพุกามตอน 9 โมงเช้า ดูเสร็จก็ปีนลงสู่ภาคพื้นดิน จากนั้นเดินทางต่อ ระหว่างทางไกด์หยุดที่ตลาดสดแห่งนี้ ตอนแรกก็จะไม่ดูเพราะไม่รู้จะดูอะไร แต่ก็ต้องลงก่อน เข้าใจว่าพิพิธภัณฑ์ทานาคาคงยังไม่เปิด ไกด์เลยหาที่ลงให้
พวกเราจึงจำใจเป็นพระยาน้อยชมตลาดไป แต่ก็ดีอย่างเห็นคนค้าขายพืชผักผลไม้ดอกไม้ ของสดของแห้งเพลินๆไป พวกของสดสดมาก สีสันสดใส พืชผลมีขนาดใหญ่ 
(ได้ดูรูปเก่าของพม่าสมัยรัชกาลที่ 5 ตลาดสดของชาวบ้านไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปสักเท่าใด แต่ได้ความรู้เพิ่มเติมว่า สาวพม่าต้องสูบบุหรี่มวนโต ปัจจุบัน 2559 ไม่เห็นแล้ว)

          นึกถึงสำนวนพระยาน้อยชมตลาด เราได้มีโอกาสอ่านประวัติของท่านโดยย่อว่า คือเจ้าน้อยศุขเกษม ณ เชียงใหม่ไปเดินเล่นในตลาดสดของเมืองมะละแหม่งและได้พบกับหมะเมียะ แม่ค้าบุหรี่ชาวพม่า เกิดรักใคร่ชอบพอกันและได้อยู่กันฉันท์สามีภรรยา เมื่อต้องกลับมาเชียงใหม่เจ้าน้อยก็แอบพาภรรยาชาวพม่ากลับมาด้วย
เรื่องเศร้าเกิดขึ้นเพราะเจ้าน้อยมีคู่หมั้นที่ผู้ใหญ่จัดหาให้แล้ว หมะเมียะกลับพม่าพร้อมคำสัญญาจากเจ้าน้อยว่าจะเดินทางไปรับกลับมาภายใน 1 เดือน เรื่องราวก็เหมือนนิยายเศร้าเคล้านำ้ตาทั่วไป หมะเมียะบวชชีตลอดชีวิต เจ้าน้อยตรอมใจและติดเหล้า เสียชีวิตอายุ 33 ปี


พ่อค้าแม่ค้านำสินค้าผักผลไม้มาวางขายอยู่ริมกำแพง

หน่อไม้สด สวยน่าจิ้มน้ำพริกกินมาก


วางขายกันง่ายๆอย่างนี้แหละ บนพื้นบ้าง กระบุงตะกร้าบ้าง

พืชผักดูสดใสน่ากิน

มะเขือเทศลูกใหญ่ๆ สีแดงแจ่มเลย


               เดินผ่านกองท่อนไม้ก็ไม่สนใจเพราะไม่รู้จัก น้องสะใภ้สนใจหยุดดูและแม่ค้าก็พูดอธิบายอะไรสักอย่างแล้วทาแป้งที่แก้มให้หลานเรา เราถึงรู้ว่าเป็นร้านขายแป้งทานาคา มีหลายแบบหลายขนาด ท่อนไม้ทานาคานั้นซื้อมาพร้อมแท่นเล็กๆเอาไว้ขูดเนื้อไม้เอาผงไม้ทานาคาผสมน้ำแล้วทาหน้าได้ หรือจะซื้อแบบผงใส่ซองบรรจุเสร็จก็มี แบบใส่ตลับกลมก็มี
แม่ค้าช่วยทาแป้งทานาคาให้หลาน


ไม้ท่อนๆที่เห็นคือท่อนไม้ทานาคา เอามาทำแป้งทาหน้า
  จากนั้นก็ไม่มีอะไรจะดูแล้ว มองหารถตู้ของเราเจอก็เดินกลับรถไปนั่งรอเวลาไปพิพิธภัณฑ์ทานาคา   (งานนี้มีเรื่องเล่าน้อย เพราะต้องอ่านจากคำอธิบายภาพสั้นๆเอาเอง ดังนั้นจึงใช้รูปเล่าเรื่องตามเคย)

พิพิธภัณฑ์ทานาคาหนึ่งเดียวในโลก

ไม้ทานาคาจากเขตต่างๆ (เราดูแล้วก็เหมือนๆกัน แยกไม่ออก)

กล่องใส่เครื่องเพชร สวยงามไม่เหมือนกัน
          ดูๆไปต้นทานาคานี่มีชาติตระกูลนะ ไม่ใช่ไม้ธรรมดา แต่ใช้เป็นเครื่องหอมทำสักการะและเป็นเครื่องประทินโฉมสาวชาววังด้วย
แท่นหินขนาดเล็กไว้พกพาติดตัวไป (คงเหมือนตลับแป้งผัดหน้า) เวลาจะใช้แป้ง ก็หยิบไม้ทานาคามาฝนกับแท่น

แท่นหินสำหรับหมอยา

แท่นหินของชาววังพร้อมไม้ทานาคา พอจะใช้ก็หยิบไม้ทานาคามาฝนกับแท่นหิน

ภาพวาดแสดงคุณค่าของไม้ทานาคาว่าเป็นของสูงค่า สำหรับถวายชาววัง

แท่นหินของชาววังมีลดวลายสวยงาม

ประทินโฉมชาววัง



รูปวาดแสดงการถวายไม้ทานาคา

แป้งทานาคาในตลับกลม สีสันหลากหลาย

ต้นไม้ทานาคามีหลากหลายสายพันธู์ หาได้ในบางเขตพื้นที่

                 

 
ดินที่เหมาะสมในการปลูกต้นทานาคา
            ตลอดเวลาที่ท่องเที่ยวอยู่ในพม่า ก็เห็นชาวพม่าทั้งชายหญิงทาแป้งทานาคาเป็นเรื่องทั่วไป เราก็เลยทาแป้งบ้าง แต่ทาบางๆไม่กล้าทาเป็นปื้นอย่างที่เห็นเขาทากัน ยังเขินอยู่จ้ะ!

เด็กๆพม่าแต่มี 1 เด็กไทยแทรกอยู่  คนไหนรู้ไหมเอ่ย

Cr ภาพและเรื่องโดย วาสนา วงศ์ชัยประเสริฐ