วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556

ขอพระเอกให้เด็กๆหน่อย


ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว เป็นแนวคิดง่ายๆไม่ซับซ้อน คนดีต้องช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่า


สังคมจะเป็นสุขเมื่อพลเมืองเคารพกฏระเบียบ มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์ต่างๆ 
Plot เรื่องแบบนี้ขายได้ตลอด บรรดาพระเอกหรือ heroes ทั้งหลายจึงมีแฟนคลับมากมาย ไม่ว่าจะเป็นซุปเปอร์แมน แบทแมน ยอดมนุษย์อุลตร้าแมน ไอออนแมน ไอ้มดแดง กาโม่ โรโบคอป ฯลฯ



             ไม่ได้จะเทศนาใครหรอก เพียงแต่อึดอัดอยากบ่นดังๆมานานแล้ว เราว่าอย่างน้อยๆก็ 10 ปีแล้วที่หนังเกี่ยวกับฮีโร่ในการ์ตูนตั้งหลายเรื่อง ถูกนำมาตีความใหม่ เปลี่ยนมุมมองเสียจนเรารู้สึกว่า พระเอกคนเก่งของเรากับเด็กๆ กลายเป็นพวกมีปัญหาไปชิบ! มีมุมมืดในใจ ถูกมองเป็นตัวป่วน ตัวสร้างปัญหา ตัวอย่างชัดสุดๆคือ มนุษย์ค้างคาวแบทแมน สไปเดอร์แมน ซุปเปอร์แมน ฯลฯ

          เราดูทั้งหนังใหม่ หนังเก่า หนัง remake หนังการ์ตูน 2-3 มิติ ดูหมดแหละ ดูแล้วก็สงสารเด็กๆ เพราะหนังซุปเปอร์ฮีโร่เหล่านี้ กลายเป็นหนังเรท X รุนแรงห้ามเด็กดู กลายเป็นหนังผู้ใหญ่ดู เพราะความโหดความรุนแรงของเนื้อหาและฉากต่อสู้ เมื่อก่อนพระเอกมักจะจับผู้ร้ายส่งตำรวจ ก็เปลี่ยนเป็นฆ่าผู้ร้ายในที่เกิดเหตุไปเลย กลายเป็นฆาตกรเสียเอง ! 
หนัง 3 เรื่องที่เอาปกมาให้ดูนี้ ดูแล้วสนุกดีดูเพลินๆ แต่เป็นหนังผู้ใหญ่อยู่ดีจ้ะ 
แก่นเรื่องก็เดิมๆ คือเอาชนะคนไม่ดีที่เห็นแก่ตัว คนดีต้องช่วยเหลือผู้อ่อนแอ รักษาหน้าที่ รักษาเกียรติยศ ทำลายคนเลว และอื่นๆ
แค่นี้ก็สนุกจะแย่แล้ว ไม่ต้องตีความเชิงวิเคราะห์จิตอะไรกันมากมาย 
                    มุ่งวิเคราะห์จิตมากเสียจนลืมหลักการพื้นฐานง่ายๆ กลายเป็นหนังจิตวิเคราะห์ จนเราดูเสร็จก็จบเป็นจิตแพทย์พอดี

ช่วยๆกันหน่อยเถอะ ขอพระเอกซุปเปอร์ฮีโร่ธรรมดาๆ ให้เด็กๆหน่อย ไม่ต้องตีความเยอะ
แค่ให้เด็กๆดูแล้วอยากเป็นคนดี เป็นพระเอก คอยช่วยเหลือผู้อื่นที่อ่อนแอกว่าด้วยประการทั้งปวง
มีคุณธรรมสูง ใจแข็ง ไม่อ่อนข้อให้กับผู้ทรงอำนาจแต่ขาดคุณธรรม
แต่ให้เสียสละแล้วต้องตายตอนจบประจำ ก็ไม่เอานะ ทำให้หมดกำลังใจจะทำดี 
เราคิดเอาง่ายๆงี้แหละ คิดมากเดี๋ยวต้องไปพบ (จิต) แพทย์ จะยุ่งเสียเปล่าๆ
Cr ภาพและเรื่องโดย วาสนา วงศ์ชัยประเสริฐ

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

บ่น(ต่อ)ก็เท่านั้น

เรามีความรู้สึกเอาเองว่า ต้องอ่านหนังสือให้จบ ไม่เช่นนั้นจะรู้สึกเสียศักดิ์ศรีมาก ความรู้สึกนี้รวมไปถึงหนังแผ่นด้วย 

พอซื้อ DVD มาดูที่บ้านหนังแย่แค่ไหนก็ต้องทนดูให้จบ เพราะเสียดายตังค์และต้องรู้ให้ได้ว่าหนังย่ำแย่ขนาดไหน (จะได้ให้ rate เหมาะสม)

Cr ภาพโดย วาสนา วงศ์ชัยประเสริฐ

เมื่อคืนเอาTotal Recall มาดูต่อจนจบ ได้ความรู้ใหม่เพิ่ม
คือ plot เรื่องเปลี่ยนไป๊ ของเดิมพระเอกเป็นสายลับของรัฐบาลปลอมตัว
โดยล้างสมองแล้วไปเข้ากลุ่มผู้ต่อต้านอำนาจรัฐ เพราะถูกรัฐเอาเปรียบชาวอาณานิคมที่อยู่บนดาวอังคาร โดยขายอากาศออกซิเจนให้แพงๆ ไม่ซื้อก็อยู่ไม่ได้ เพราะอากาศดาวอังคารเป็นพิษ มีผลให้ผู้ที่รอดตายมีร่างกายพิกลพิการ พระเอกต้องตามหาหัวหน้าผู้ต่อต้านเพื่อกำจัด โดยที่พระเอกเองรู้ว่ามีความลับบนดาวอังคาร ที่สามารถช่วยชาวอาณานิคมได้ แต่ความที่ตัวตนเดิมเป็นผู้ร้ายที่ถูกล้างความจำให้กลายเป็นคนดี แล้วดันชอบความเป็นคนดีเลยกลายเป็นคนดีไปจริงๆ(ขอร้อง อย่า... งง ) สรุปช่วยชาวอาณานิคมได้สำเร็จ

                  Plot ใหม่ พระเอกถูกล้างความจำและให้ข้อมูลลวงบันทึกในความจำว่า กองทัพตำรวจหุ่นยนต์มีจุดอ่อนทำลายได้ เมื่อหัวหน้าผู้ต่อต้านอ่านจิตพระเอกได้แล้ว ปรากฏว่าเป็นกับดักในสมองพระเอก เปิดเผยฐานที่อยู่ของผู้ต่อต้าน ก็เลยสู้กันมันหยด

เราดูจบก็โล่งอก หนัง Remake เรื่องนี้ไม่เลวเท่าไหร่ ถ้าใครไม่เคยดู version เก่า ก็คงจะว่าสนุก
ส่วนเราพวกลายครามดูแล้วก็เฉยๆ ไม่มีอะไรตื่นเต้นมาก
สงสัยว่าจะได้ดูหนังดีๆมากเกินไปในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา มาถึงตอนนี้ดูอะไรก็อย่างงั้นๆ
แต่ก็ยังอยากจะหามาดู (กลัวตกรุ่น)
บ่นไปแล้วก็แล้วไป คราวหน้าหาหนังใหม่แต่ใช้ดารารุ่นเดอะเล่น มาดูดีกว่า


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าฝังใจกับความหลัง จะทำให้เสียตังค์เพิ่ม




วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เวลาหายไปไหน?

อย่า อย่า ขอร้องล่ะ อย่านึกว่าเราจะตอบว่า อยู่ในขวดแก้ว 

(ชื่อหนังสือ"เวลาในขวดแก้ว"  ไงล่ะ ดังมาก แต่เราไม่ได้อ่านหรอก แฮ่ะ แฮ่ะ)

หนังสือรออ่านบางเรื่อง รอมาหลายเดือนแล้ว  "เชอร์ล็อคโฮล์ม"  (ขวาสุดประมาณ  4 ปี)


Cr ภาพและเรื่องโดย วาสนา วงศ์ชัยประเสริฐ

จั่วหัวเรื่องเท่ๆไปงั้นแหละ แค่จะบอกว่า มีหนังสือรอเราอ่านที่บ้านอีกบานเลย

กลุ้มนะเนี่ย... เช้ามืดก็รีบออกรถไปทำงาน ค่ำกลับถึงบ้าน (แบบไม่ไปโต๋เต๋ตุ๊ดตู่ที่ไหนเลยนะ) ก็เหนื่อยไม่อยากทำอะไรแล้ว หนังสือพิมพ์อ่านได้ 1 หน้าไม่เกินหน้า 3 ก็ต้องวาง เพื่อดูหนังเคเบิลต่อ นั่งหลับๆตื่นๆดู (จะทรมานทำไม) นั่งหลับนั่นแหละ  ตั้งใจว่าจะอ่านหนังสือ (ที่กองสุมๆอยู่ข้างเตียง ปลายเตียง บนโต๊ะ ในตู้ ในลิ้นชักตามที่จะซุกและสุมไว้ได้) ก่อนนอนมา 7 เดือนแล้ว ทำไม่ได้เลย

ดูหนังสืบสวน หนังอาชญากรรมจบประมาณสี่ทุ่มกว่า จะง่วงจนหัวทิ่มแล้วค่อยไปอาบน้ำ คราวนี้นึกว่าจะอ่านได้ก็เหลวอีก หลับทั้งที่ถือหนังสือคามือไว้เลย

โอ้ ! OMG (oh! my god จะย่อทำไม) ข้าน้อยจะทำประการใดดี ?

คราวนี้ต้องโดนข้อหา ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด เป็นแน่แท้

มีใครจัดเวลาเก่งๆบ้างไหม ช่วย give me your hand หน่อยเถอะ นึกว่าสงสารหนังสือกองพะเนินที่นอนอาบฝุ่น ถูกทอดทิ้ง (รอการถูกอ่านจากเจ้าของมาชาติเศษจนจะเข้าชาติหน้าอยู่แล้ว)ด้วยเถอะ 

ใครช่วยได้..ขอให้ร่ำ ขอให้รวย ขอให้สวย ขอให้หล่อ ขอให้เป็นตัวจริง ไม่เป็นสแตนอินของใคร โย้ว โย่ว....


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่านอนอ่านหนังสือ ให้นั่งอ่านเสียดีๆ จะเอาตัวรอดได้




วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

บ่น(เล่า)ก็เท่านั้น

คนเรามีของโปรดของชอบต่างๆกัน
เราเองชอบอ่านหนังสือมาก แต่ก็ชอบดูหนังดูการ์ตูนไม่แพ้กัน มีข้อแม้อย่างเดียว คือต้องดูที่บ้านเท่านั้น

Total Recall
Version ทำใหม่ล่าสุด 2555


Cr ภาพและเรื่องโดย วาสนา วงศ์ชัยประเสริฐ

เราชอบดูหนัง action มาก เพราะพูดน้อยแต่ยิงกันแบบกระสุนหมดคลังแสงไปเลย   

ยุคไหนฮิตระเบิดก็ระเบิดจนเฝือคิดอะไรไม่ออกระเบิดไว้ก่อน จนขำว่ามันจะระเบิดทำไม(วะ)

ดูและซื้อเก็บจนไม่มีที่เก็บ VDO เก่าต้องทิ้ง เพราะไม่มีเครื่องจะใช้ดู

 (ม้วน Master ด้วยนะเธอ)

หนังใหม่ DVD ก็ซื้อแยะ แต่ไม่สนุกเหมือนเก่า เอาแต่โชว์ความพินาศ จากรถชนรถระเบิด

 ยิงสู้กันทำลายห้างสรรพสินค้าทั้งชั้นหรือทั้งตึกทำงาน นานมากจนเบื่อ ลุกไปเข้าห้องน้ำแล้วก็ยังยิงถล่มกันไม่เสร็จ ไม่รู้ไปเอากระสุนสำรองมาจากไหน

จนต้องหันไปหาหนัง Remake มาดู อย่างที่เอามาให้ดูนี่ ก็ทำใหม่
เราดูตั้งแต่สมัยอาร์โนลด์ (คนเหล็ก) เล่น ชอบมาก เพราะเป็นแนวโลกอนาคต
 จำได้ว่า มี โทรทัศน์จอแบนติดกำแพง แท๊กซี่ขับโดยหุ่นยนต์
(ซึ่งเมื่อประมาณ 25 ปีที่แล้วยังไม่มีเลย คอมพิวเตอร์ก็ยังใช้เขียนโปรแกรมป้อน 

ส่วนโปรแกรมสำเร็จรูปยังเป็นวิญญาณอยู่)

อย่างไรก็ตาม Total Recall ฉบับ Remake ทำเราผิดหวังแท้ เซ็งสนิท ใช้บรรยากาศจีนๆ 

ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น ตื่นตาเลย เฮ้ออออออออ !

ดูไปหลับไป จนค่อนเรื่อง รอว่าเมื่อไหร่จะสนุกสักที สรุปว่า ดูไม่จบ 

เอาไว้ดูจบแล้วจะมาบ่นต่อนะ...


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าสะสมขยะกองใหม่  ทิ้งกองเก่าไปก็ดีแล้วจะไปซื้อขยะใหม่มาอีกทำไม ฮ่า ฮ่า





วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

บ่นเพื่อก่อ

เราเป็นคนไทยที่(พยายาม)สนับสนุนธุรกิจของคนไทย แต่...



ผู้บ่นเองก็ใช้โทรศัพท์มือถือเหมือนชาวบ้านอื่น ใช้มาแล้วทุกระบบ 800, 900, 1800, GSM, Wifi, 3G.....
ใช้บริการของAis, กับ Dtac (ก่อนหน้านี้มีใครอีกจำไม่ได้) 
จนเกิดเรื่องขายกิจการโทรคมนาคมให้สิงคโปร์ เราก็เลือดรักชาติระอุเดือดบ้างซิ
ยกเลิกAis ทั้งหมด เหลือ Dtac 
ถึงต่างสัญชาติก็จำต้องใช้ไปก่อน เพราะ true ชื่อเสียงโกงค่าโทรศัพท์ลูกค้าโด่งดังมาก
หลายๆคนที่รู้จักด่าเรื่องถูกเก็บค่าโทรศัพท์มั่วมาก จนต้องยกเลิกการใช้
เพราะเบื่อที่จะต้องโทร.สอบถามเมื่อเห็นบิลค่าบริการ
เมื่อปลายปีที่แล้วเราก็โดน Dtac ยัดเยียดค่าบริการที่จงใจมอบให้ลูกค้า
 ค่าบริการดูภาพชาติชั่ว เรากดลบกลายเป็นมันขอบคุณเรา
สิ้นเดือนยังไม่โดนเก็บ ก็เบาใจว่าคิดไปเองว่าโดนโกงแน่   เดือนถัดมาโดนเกือบร้อย
 เราโดนเข้าไป 2 เดือนทั้งที่โทรแจ้งแล้วจึงตัดสินใจโทร.ไปด่าและจะเปลี่ยนค่าย Dtac ค่อยติดต่อมารับผิดชอบ
เราตัดไป 2 เบอร์เหลืออีก 2 เบอร์

ยัง...ยังไม่จบง่ายๆ บอกแล้วว่า บ่นเพื่อก่อ...

เราไป true ที่เซ็นทรัล บางนา ว่าจะใช้บริการฐานที่เป็นของคนไทย (ใจก็นึกหวั่นๆ เรื่องมั่วคิดค่าบริการ)
แต่เอาล่ะ เพื่อชาติไทยของเรา เป็นไงเป็นกัน
เราโผล่เข้าไปในร้าน คนก็ไม่พลุกพล่านเท่าไหร่ รอๆดูอยู่ ไม่มีใครสนใจเราเลย เฮ้ออออออออ
ไป Ais ดีกว่า ไปช่วยสิงคโปร์ให้รวยยิ่งๆขึ้นไป 
เราโผล่เข้าไปในร้าน Ais ยืนเก้ๆกังๆ (ด้วยความตั้งใจ) เจ้าหน้าที่ของ Ais หันมาเห็นเข้า
ก็ถามทันทีว่า ติดต่อเรื่องอะไรคะ (เราจะขอเปิดเบอร์ใหม่ใช้กับสมาร์ทโฟน) เราแจ้งไปปุ๊บ
 เธอก็กดบัตรคิวปั๊บ
 รอไม่นานทั้งๆที่เห็นคนแยะมาก เธอบอกว่าแจ้งเรื่องที่เคาน์เตอร์ได้เลยค่ะ
  พนักงานที่เคาน์เตอร์ก็ใส่ใจอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับ package promotion ต่างๆ 
จนเราเข้าใจและพอใจมาก...

เมื่อวันพฤหัสที่ 7/02/56 เราก็วอนหาเรื่องจะใช้ true อีก ที่ เมกา บางนา 
เข้าไปสอบถามพนักงานที่ยืนว่างๆอยู่ เกี่ยวกับ package ที่จะใช้กับ iPad ก็ได้รับคำตอบแบบ 
(กู) อ่านจากแผ่นพับ ไม่มีคำแนะนำเพิ่มเติมให้ลูกค้าเข้าใจเลย เรายืนอึ้งอัดอั้นใจสักพักก็ปล่อยวาง
มองไปฝั่งตรงข้ามเห็นร้าน Ais ก็เดินเซเข้าไปพักพิง พนักงาน Ais กำลังช่วยเหลือลูกค้าคนอื่นอยู่
เราก็บอกความต้องการว่า ต้องการ package iPad ช่วยแนะนำหน่อย
น้องชายคนนี้ก็แนะนำทันที กดบัตรคิวปั๊บ พาเดินไปที่เคาน์เตอร์ 
ก่อนไปมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงอีกคน คาดว่าจะออกเวรแล้วช่วยแนะนำอีก 
เราติดต่อประมาณ 15 นาทีจบข่าว เสียเงินค่าซิมใหม่เบอร์เดิมเพิ่ม 300 บาทเท่านั้น
 น้องเขาแนะนำให้ใช้ package เดิมที่มีอยู่แล้ว ประหยัดกว่า ยิ่งมี Wifi ที่บ้านและที่ทำงานยิ่งประหยัดมาก
ถ้าใช้แล้วช้าหรืออยากเปลี่ยนเอาเบอร์ใหม่เลย ก็ค่อยทำเรื่องภายหลัง ทดลองใช้ดูก่อน

เราไม่ชอบ Ais ด้วยเหตุผลทางการเมือง แต่ดูซิ งานบริการลูกค้า เขาฝึกพนักงานมาดีมาก 
ใช้เวลาน้อยมากในการทำธุระกับ Ais ส่วน  Dtac & true เฮงซวยพอกัน 
 ทำไมปล่อยให้พนักงานนั่งว่างๆ ทั้งๆที่มีลูกค้านั่งรอ ( ทำไมไม่ฝึกให้พนักงานให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ทุกคนดูแลลูกค้าได้ทุกเรื่องเหมือน Ais)
ปล่อยให้ลูกค้ารอโดยไม่แจ้งเหตุ พนักงานหน้าร้านก็ช่วยเหลือแนะนำอะไรลูกค้าไม่ได้ 
ลูกค้าต้องหาคำตอบเอง (ที่ Dtac เราเดินไปถามเองว่า ทำไมถึงรอนานอย่างนี้
ลูกค้าในร้านที่ เซ็นทรัล บางนา ก็มีไม่มาก พนักงานนั่งว่างๆตั้งหลายโต๊ะ)
แล้วจะให้เราทำยังไงกับธุรกิจไทยดี ช่วยบอกหน่อย !



Cr ภาพและเรื่องโดย วาสนา วงศ์ชัยประเสริฐ




วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

แนบเนียน





ในห้องประชุมที่One Click กรรมการผู้จัดการกำลังวางlay out ร้านค้ากับสถาปนิกที่ปรึกษา

เรารีบไปยืนดูงานพร้อมแสดงท่าทางสนใจอย่างสูง เป็นไงล่ะ เนียนมั้ย

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็นจงใช้วิจารณญาณในการรับชม ฮ่า ฮ่า


Cr ภาพและเรื่องโดย วาสนา วงศ์ชัยประเสริฐ





วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ง่ายๆแต่กำลังจะหายไป

อยากจะบอกว่าให้รีบไปเที่ยว ก่อนที่บรรยากาศแบบนี้จะหมดไป
 เพราะความเจริญที่ย่ำเท้าโครมเข้ามาพร้อมกับนายทุนอสังหาริมทรัพย์
และความขาดจิตสำนึกอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น

บ้านแม่อารมย์ อัมพวา
มีโอกาสไปเที่ยวอัมพวาแบบ Home stay  เมื่อ 4/10/55
เป็นบ้านไม้ริมน้ำแบบเดิมๆ โต๊ะเก้าอี้ทรงเก่าแต่นั่งสบาย

มุมหน้าบ้านติดคลอง
นั่งรอซื้อก๋วยเตี๋ยว ขนม ไอติม กาแฟที่ลุงตือ(เจ้าของบ้านแม่อารมย์)
 เรียกเรือให้แวะมาจอดขาย


Cr ภาพและเรื่องโดย วาสนา วงศ์ชัยประเสริฐ


วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

กว่าจะซื้อ




Cr ภาพและเรื่องโดย วาสนา วงศ์ชัยประเสริฐ

              หนังสือสองเล่มนี้ซื้อจากลอนดอน เมื่อ 16 ธันวาคม 2546 (ค่าเงินปอนด์ 70฿/1ปอนด์) จำได้แบบมึนๆว่าเดินเล่นแถวบ้าน Shakespeare หรือไงเนี่ย เห็นร้านหนังสือก็อดแวะไม่ได้ ปรากฏว่าเจอ book collection ขนาดเล่มกระทัดรัด (สูง 6" กว้าง 4") ปกแข็งสีแดง เลียนแบบหนังสือเก่า (ดูตามภาพ) อยากได้มากๆๆๆๆ เดินวนเวียนหยิบจับเรื่องต่างๆดู อยากได้หลายเรื่องแต่สู้ราคาไม่ไหว ตัดใจเดินออกจากร้าน ไม่ซื้อก็ได้...(เจียมตัว)
              เดินไปดูหนังสือร้านอื่นๆก็ไม่มี book collection นี้ คิดนานนนนน......มาก จึงตัดสินใจ " เอาล่ะวะ 800 ก็ 800 " เอาสองเล่มเท่านั้น แค่นี้ก็เกินฐานะพอแล้ว ใช้เวลาเลือกเรื่องอีกชาติหนึ่ง เพราะอยากได้หลายเรื่อง (รักพี่เสียดายน้อง) ตกลงปลงใจเลือกมาสองเรื่องที่เห็นนี่แหละ "Dracula" เคยอ่านภาคภาษาไทยแล้วภาษาเก่ามาก มาอ่านภาคภาษาอังกฤษ ภาษายิ่งเก่าใหญ่ อ่านแบบเดาๆ สนุกดี มัวแต่เปิด Dictionary มีหวังได้อ่านข้ามภพข้ามชาติแน่ 
             ยิ่งเรื่อง "Tales of Mystery" ของเอ็ดการ์ อลัน โป เราเริ่มอ่านตั้งแต่เป็นการ์ตูนสยองขวัญ ภาพวาดสวยสยองมาก เริ่มชอบเรื่องสยองขวัญตั้งแต่บัดนั้น(อายุสัก 12-13 ปีได้มั้ง?) ตอนเรียนวรรณคดีอังกฤษถึงได้ทราบว่า เอ็ดการ์ อลัน โป เป็นต้นตำรับเรื่องสยองขวัญของนักเขียนแนว Herror ภาษาอังกฤษเรื่องนี้เก่า อ่านยาก เราก็อ่านแบบเดาๆอีก หลายเรื่องอ่านรู้เรื่องเพราะเคยอ่านเป็นการ์ตูนมาก่อน จึงเดาเนื้อเรื่องได้
             เข้าร้านไปตอนบ่าย ออกจากร้านมาก็โพล้เพล้พอดี เหนื่อยน่าดูกับการตัดสินใจอันยิ่งใหญ่ปานนี้ อิ!อิ!



เก่าแต่เก๋า


" คนหลงโลก " ซื้อ ๒๕๓๐ ฉบับพิมพ์ ๒๕๒๓ ราคา ๒๕ บาท
" กุหลาบโรย " ซื้อ ๒๕๒๖ ฉบับพิมพ์ ๒๕๒๖ ราคา ๒๘ บาท


Cr ภาพและเรื่องโดย วาสนา วงศ์ชัยประเสริฐ

เก็บภาพไว้เป็นบันทึกความจำ เพราะมีหนังสือดีๆทรงคุณค่าอีกมหาศาลที่ต้องสูญหายไปกับกาลเวลา ทั้งที่ถูกทำลายกลายเป็นเชื้อไฟ กลายเป็นเศษกระดาษรองลัง กลายเป็นอาหารปลวก
หนังสือชุดนี้เขียนถึงสมัยอาณาจักรของพระเจ้าล่มสลายแล้ว คนรุ่นสมัยควีนวิคตอเรียไม่เชื่อพระเจ้า ใช้ชีวิตสำส่อน เหลวแหลก ความมั่งคั่งได้มาจากความเอารัดเอาเปรียบคนยากจน คนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ความเมตตากรุณาไม่ต้องพุดถึง เป็นเรื่องของคนโง่
ช่างคล้ายกับยุคสมัย ๒๕๕๖ นี้เสียจริง




วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

บ่นไปใหม่มา


                    วานนี้เห็นเพื่อนเก๋าลงรูปภาพหนังสือการ์ตูนชัยพฤกษ์สภาพสวยมาก ทั้งๆที่อายุ (ของหนังสือ)ก็งั่กมาก  ทำให้คิดถึงหนังสือเก่าๆแต่มีคุณค่าทางใจ ทั้งที่มีอยู่แลอันตรธานไปกับกาลเวลาและการขนย้ายเข้าบ้านใหม่ ทั้งต้องตัดใจทิ้งเพราะไม่มีที่เก็บ ซ้ำร้ายโดนฝนถล่ม ทัพปลวกขย้ำ  โอย เสียดายและสงสารหนังสือจนบอกไม่ถูก กว่าจะเก็บเงินซื้อได้แต่ละเล่ม ต้องอดออมน่าดู 
                   ตอนนี้เมื่อเจอหนังสือที่ชอบแต่เป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2,3,4,.... ก็เลือกซื้อเก็บมาอ่านใหม่บ้าง แต่ไม่ได้ซื้อทุกเรื่อง เพราะอย่างไรภาพปกหนังสือก็ไม่ใช่ภาพเก่า มีเพียงชื่อเรื่องและผู้แต่งเท่านั้นที่ไม่เปลี่ยน ข้อสำคัญ ราค้า...ราคานี่ซิ  สูงล้ำนำสมัยไม่เปลี่ยนเลย





Cr ภาพโดย พนิดา สงวนเสรีวาณิชย์