วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560

ไปงานศพ (ต่อ)

ไปงานศพคราวนี้ได้ข้อคิดอะไรดีๆมาหลายเรื่องเลย
ปกติไปงานศพกันหลายคน ก็ไม่ค่อยได้ทันคิดอะไร แต่ครั้งนี้ไปคนเดียวและไปถึงวัดที่จัดงานศพก่อนใครเพื่อน (อย่างที่เราคิดระแวงล่วงหน้าเชียว) ทำให้ต้องใช้สติอย่างมาก ตั้งแต่ดูแผนที่หาที่ตั้งวัด กะเวลาออกจากบ้านให้เหมาะสม  เมื่อไปถึงวัดเร็วเกินไปจะแก้ไขอย่างไร ถ้าเจออะไรไม่ชอบมาพากลจะอยู่หรือจะเผ่น ฯลฯ...
เอาล่ะ เล่าเรื่องต่อ...
พวกเรากินข้าวเสร็จ ดูเวลาเห็นเกือบจะ 1 ทุ่มแล้ว จึงเดินหาห้องน้ำเข้าตามระเบียบ (ไม่กล้า เอ้ย! ไม่อยากไปเข้าที่วัด) เดินหาอยู่พักใหญ่ถึงเจอห้องน้ำ แต่ครั้งนี้ทางเข้าห้องน้ำไม่ลึกจนน่ากลัวเหมือนชั้น 1( ถ้าใครปวดฉี่มาก อย่าเข้าห้องน้ำชั้น 1 นะ ฉี่ราดกลางทางค่อนข้างแน่!) จากนั้นก็ตกลงใจฝากรถไว้ที่ลานจอดของห้าง แล้วพวกเราก็เดินไปวัดซึ่งอยู่ติดห้างแบบใช้กำแพงเดียวกันได้เลย เมื่อไปถึงศาลาตั้งศพ เพื่อนก็พาเข้าไปไหว้คุณแม่และพากราบศพคุณพ่อเสร็จก็พาออกมาจุดธูปไหว้ข้างนอกห้องแอร์ที่ตั้งศพ พวกเรายืนเรียงต่อกัน เพื่อนคนหน้าสุดก็ส่งธูปที่จุดแล้วส่งต่อมาให้ ธูปส่งมาถึงเราเหลือ 2 ดอก เรารับไว้แล้วเหลียวไปข้างหลังเพื่อส่งต่อ อ้าว!  ไม่มีใครแล้วนี่หว่า!?!
แล้วเพื่อนเราส่งธูปมาให้ใครล่ะ เราถามทันทีว่า "เฮ้ย!  มีฉันคนเดียวแล้วนายส่งธูปมาทำไม 2 ดอก เห็นใครอยู่ข้างหลังฉันอีกวะ ? "  แล้วเราก็เหลียวหลังดูอีกให้แน่ๆ พลางทำท่าเป็นเรื่องตลก แต่คงไม่เนียน เพื่อนอีกคนเลยหันมาดึงธูปไป 1 ดอก แล้วบอกเพื่อนคนแรกว่า "บอกแล้วว่าอย่าจุดธูปเผื่อ เห็นไหม? " เราก็หัวเราะแหะๆ ประมาณว่าไม่กลัวหรอก ทำตลกไปงั้นแหละ
เมื่อฟังสวดศพเสร็จงาน ก็ยืนรอขึ้นรถของเพื่อนคนหนึ่งเพื่อไปเอารถที่ห้าง เราจึงเริ่มมองบริเวณหน้าศาลาและเมรุเผาศพชัดๆ


สว่างมุมเดียว นอกนั้นมืดหมด เพราะศาลาอื่นไม่มีงาน

มองเมรุแล้วก็มืดๆอึมครึม แต่แปลกใจว่าทำไมข้างหลังเมรุดูสว่างหลอกตา หรือว่าเปิดไฟส่องไว้ เราจึงเดินไปดูให้หายสงสัย (หาเรื่องใส่ตัวอีกแล้ว!) ปรากฎว่าหลังเมรุคือ ป้ายโฆษณาของห้าง ใหญ่เบ่อเร่อ เหมือนเป็นฉากหลังของเมรุ เพราะอยู่ติดประชิดวัดมากไป เห็นแล้วปลง ไม่ใช่ปลงตก แต่ปลงว่า เวลาส่งศพขึ้นเมรุเตรียมเผาแล้ว คนที่มางานเผาจะสลดสังเวชได้หรือ มีป้ายสินค้าล่อตาล่อใจอยู่ใกล้เสียขนาดนี้ เรายืนมองอยู่สักพักก็เลิกคิดฟุ้งซ่าน เพราะวัดอยู่มานาน คงไม่ย้ายเมรุหนีป้ายหรอก

ข้างหลังเมรุเป็นป้ายโฆษณาของห้างใหม่ สว่างโร่ ชัดจนแสบตา

พอขึ้นรถเพื่อนได้ก็สบายใจคิดว่าจะได้กลับบ้านสักที! เพื่อนขับรถตรงออกไปตามทางที่ขับเข้ามา ไม่มีใครเอะใจ เพราะทุกคนเดินมาจากห้าง เราเองก็ลืมว่าต้องเลี้ยวซ้ายออกจากวัด ปรากฎว่าเพื่อนขับตรงไปเรื่อยๆ ทางแคบแถมมีรถจอดชิดข้างทางอีก สุดทางไปต่อไม่ได้ เพราะติดรถจอดอยู่ เพื่อนเราต้องถอยรถยาวเลย ช่วยลุ้นกันสุดชีวิต ไม่ให้เฉี่ยวชนกับรถที่จอดอยู่ พอหลุดออกมาได้ หัวเราะกันใหญ่ โล่งอก!  เจ้าของรถบอกว่าแทบจะร้องไห้เลย ตอนถอยยาวออกมา จากนั้นก็ขับรถไปส่งพวกเราที่ลานจอดรถของห้างใหม่
เฮ้อ! บอกตรงๆ ไปงานศพคราวนี้เหนื่อยจริงๆ ใครไปไหนมาไหนคนเดียว อย่าลืมสติไว้ที่บ้านเป็นอันขาด จะเอาตัวไม่รอดนะ !


Cr ภาพและเรื่องโดย วาสนา วงศ์ชัยประเสริฐ

ไปงานศพ

ขึ้นปีใหม่ 2560 ปีระกา
ได้ข่าวจากเพื่อนนักเรียนเก่าว่า คุณพ่อของเพื่อนเสียเมื่อ 12 มกราคม 2560 พวกเพื่อนๆจึงนัดกันไปงานศพของท่านในวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม ที่วัดเก่าแก่หนึ่ง แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง
(วัดนี้เป็นวัดใหญ่สวยงามดี แต่มีสิ่งปลูกสร้างเต็มพื้นที่วัด แทบไม่เหลือต้นไม้ให้อาศัยร่มเงาเลย ที่จอดรถมีบ้างเล็กน้อย)
เราอาศัยดูที่ตั้งวัดจากแผนที่กูเกิลและนัดกับเพื่อนว่าจะไปถึงวัดประมาณ 5-6 โมงเย็น แต่ให้เจอกันก่อนที่ห้างเปิดใหม่ที่อยู่หน้าวัด เราก็ตกลงแต่ออกตัวก่อนว่าอย่าไปเร็วนักนะ เดี๋ยวเจ้าภาพงานศพยังไม่มา พวกเราจะวังเวงเสียเปล่าๆ
ประมาณ 4 โมงเย็นกว่าๆ เราก็ขับรถออกจากบ้าน ไม่ได้ขับเร็วเพราะกลัวไปถึงวัดเร็วเกินไป (ตามที่บอก) ปรากฎว่า รถไม่ติดเลย เราก็ขับเอื่อยเฉี่อยค่อยๆมองหาทางเข้าวัดตามที่เพื่อนและกูเกิลบอก เลี้ยวเข้าถนนซอยขับผ่านห้างใหม่ใหญ่โตเหลือขนาด เลี้ยวขวาตรงทางแยกนิดเดียวถึงประตูวัดแล้ว เราเลี้ยวซ้ายเข้าประตูวัดและขับชิดซ้ายพลางชะลอรถมองหาศาลาตั้งศพ เห็นแต่สิ่งปลูกสร้างใหม่ๆใหญ่ๆเต็มไปหมด หาที่จอดรถไม่เ่จอ จึงตัดสินใจเลี้ยวขวาไปทางหมู่ตึก ริมทางซ้ายมือมีพระและฆราวาสกำลังเทปูนอยู่ จึงจอดรถถามทางไปศาลาตั้งศพ ช่างบอกให้ขับตรงไปแล้วเลี้ยวขวาก็ถึงแล้ว เรายกมือไหว้ขอบคุณ(ไม่ได้สนใจว่าช่างจะอายุน้อยหรือมาก)
เราขับรถตรงไปช้าๆ เพราะทางแคบ เจอทางแยกก็มองซ้ายขวาแล้วเลี้ยวขวา เนื่องจากตรงต่อไปไม่ได้ (มองไม่เห็นใครผ่านมาให้ถามเลย) เราขับไปตามทาง มองไปข้างหน้าคล้ายทางตัน แต่มีประตูทางเข้ามองเห็นเมรุเผาศพ (ตอนนั้นยังนึกไม่ออกว่ากำลังเห็นอะไรอยู่)
ขาเข้า-มองจากรถก็เห็นเมรุอยู่กลางลาน

เราหยุดรถหน้าประตูด้วยความลังเลว่าจะไปต่อดีไหม เพราะ...
1. เวลา 17. 05 น. ฟ้ายังสว่างมากแต่ทำไมไม่มีคนหรือน้องหมาให้เห็นเลย ไม่มีรถขับตามมาสักคัน บรรยากาศเงียบ สงบ เย็น...

    ทางเข้า-มองจากหน้าเมรุ
    (รูปนี้ถ่ายย้อนทาง)
2.เห็นชายชราผมขาวโพลนในชุดสีดำสนิท นั่งอยู่ที่ขั้นบันไดตรงกลางทางขึ้นเมรุอยู่คนเดียว มองเป๋งมาที่รถเรา (รู้สึกว่าแปลกๆ แต่ยังคิดไม่ทันว่าทำไม?...  เราคิดแต่ว่าคุณลุงไปนั่งตรงนั้นทำไม? (...มันใช่ที่ควรจะนั่งหรือ? )
ตอนสวดศพเสร็จงานแล้วถึงเห็นป้าย "เมรุฌาปนกิจศพ"

     นั่งมองกันสักพัก เราก็ขับรถผ่านประตูเข้าไปแล้วหยุดมองซ้ายมองขวา พอเห็นว่าขวามือเป็นศาลาตั้งศพ เราจึงกลับรถบริเวณหน้าเมรุนั้นเลย มองไม่เห็นคุณลุงแล้วแต่ศาลาซ้ายมือมีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาขึ้นรถกระบะที่จอดไว้ข้างศาลา  เราใจชื้นแต่ยังไม่ไว้ใจก็รีบขับรถออกมาจอดที่ลานจอดรถ มีรถแค่ 2 คัน เรารออยู่สักพักก็โทรศัพท์ตามเพื่อนดีกว่า มันชักจะยังไงๆแล้ว(ไม่ได้กลัวผีแต่รู้สึกว่านั่งอยู่คนเดียว ฟังเสียงลมพัดใบไม้ซู่ซ่า รู้สึกวังเวงนะ) เพื่อนบอกไปเจอกันที่ห้างใหม่ เพราะพวกเขาเพิ่งมาถึงที่ห้าง เพื่อจะกินข้าวกันก่อน เราก็ขับรถแน่บออกไปเลย ใช้เวลาแค่ 2-3 นาทีจากลานวัดสู่ลานจอดรถของห้างได้  
     พอเจอเพื่อนๆก็โล่งอก เราบ่นว่านึกไม่ถึงว่าจากบ้านเรามาวัดนี้จะเร็วมาก รถไม่ติดเลย เราจึงเข้าไปสำรวจวัดก่อนใคร ถึงรู้ว่ามีที่จอดรถน้อยมาก จากนั้นพวกเราก็เดินเรื่อยเปื่อยไปหาข้าวกิน เราปวดฉี่ (สงสัยอั้นมาจากเหตุการณ์ตื่นเต้นในวัด อิ อิ)  ก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำที่ชั้น 1 ก่อนไปกินข้าวชั้น 5 

ปากทางเข้าห้องน้ำที่ ชั้น 1

     จากปากทางมองเข้าไปเป็นทางแคบๆ ลึกประมาณ 10 เมตร เราก็เดินเข้าไปคนเดียว จากนั้นเลี้ยวหักศอกซ้ายมองไปเป็นทางยาวไกลมาก เราชักใจไม่ดี เพราะมีเราคนเดียวเดินไป แต่ก็ปวดฉี่เหลือใจ เอาวะ! เดินอีกสัก 20-30 เมตร คงจะถึงห้องน้ำแล้ว พอเดินไปใกล้จะถึงมุมเลี้ยวหักศอกขวา ได้ยินเสียงผู้หญิงพูดคุยแว่วๆมาก็ดีใจ พอเลี้ยวขวาเห็นหนทางอีกไกลมากๆก็ชะงัก อะไรวะ! ทำไมห้องน้ำสร้างไว้ไกลมากขนาดนี้ เรามาถูกทางหรือเปล่า กลุ่มวัยรุ่นที่เดินสวนทางมาเห็นเรายืนลังเลอยู่ ก็พูดว่า " พี่มาถูกทางแล้วค่ะ เมื่อกี๊หนูก็มีคำถามเหมือนกัน " เราหัวเราะแล้วก็ตอบขอบคุณไป

ทางเดินนี้สัก 20-30 เมตรน่าจะได้
                
เลี้ยวขวาอีกประมาณ 30 เมตร มีประตูลิฟท์อยู่ขวามือ
(ถ่ายรูปย้อนทาง)

ผ่านหน้าลิฟท์มาสุดทางแล้วเลี้ยวขวาอีก ประมาณ 10 เมตร

ถึงหลักชัยค่ะ!
           

     งานหาห้องน้ำคราวนี้ได้ความตื่นเต้นพอๆกับเข้าวัดไปหาศาลาจัดงานศพเลย เร้าใจสุดๆ  มีเราอยู่คนเดียว จะเข้าห้องน้ำก็กลัวถูกจี้ ลองชะโงกหน้าดูเห็นมีแม่บ้านยืนเช็ดอ่างล้างมือ เราจึงสมใจได้เข้าห้องน้ำไประบายความอัดอั้นเสียที...
ยังค่ะ ยัง เรื่องไปงานศพคราวนี้ยังไม่จบง่ายๆ ยังมีต่อ...


Cr ภาพและเรื่องโดย วาสนา วงศ์ชัยประเสริฐ