มีโอกาสไปเที่ยวประเทศเมียนมาร์ 11-16 มีนาคม 2558 เกือบทั้งครอบครัว ขาดน้องคนเล็กไป 1 คน (ต้องอยู่โยงเฝ้าบ้านไงล่ะ)
เหมือนย้อนเวลากลับสู่เมืองไทยเมื่อประมาณ 40 กว่าปีที่แล้ว เวลาเราเดินทางไปต่างจังหวัด เมื่อพ้นเขตเมือง ถนนหนทางก็กลับกลายเป็นดินแดงๆ มี 2 เลน มีร้านค้าแบบกระต๊อบเรียงรายเป็นช่วงๆ (พม่าใช้พวงมาลัยรถขวาและขับชิดขวา) ต้นไม้มีอยู่มาก อากาศร้อน แดดแรงแต่ชุ่มชื้นไม่ทรมานมาก (ส่วนใหญ่นั่งอยู่ในรถตู้ติดแอร์ ตอนเดินทางจะไม่ค่อยรู้สึกร้อน แต่พอลงรถเพื่อเดินเข้าวัดต่างๆล่ะ ร้อนวาบเลย เพราะต้องเดินเท้าเปล่า)
5 คืน 6 วันที่ท่องเที่ยวอยู่ในพม่า (เมืองย่างกุ้ง พุกาม มัณฑะเลย์) สนุกและเหนื่อยไปตามวัย
 |
เจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง |
มีเรื่องราวน่ารู้น่าเล่าให้ฟังเยอะ ไกด์พม่ามีความรู้และมาเรียนที่เมืองไทยด้วย รู้จักคนไทยและนิสัยแปลกๆของคนไทยดีมาก
เราจะไม่เล่าเรื่องการเดินทางเรียงตามวันที่ แต่จะเล่าเรื่องจากความประทับใจมากกว่า เริ่มกันที่พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง (ไปนมัสการตอนค่ำวันที่ 12 มีนาคม 2558)
ไกด์พาไปพระมหาเจดีย์ชเวดากองตอนค่ำๆ เพราะโดยรอบองค์เจดีย์เป็นพื้นหินอ่อน ร้อนมาก ถ้าไปกลางวันจะเดินไม่ได้เลย (ต้องเดินเท้าเปล่าเท่านั้น ห้ามใส่ถุงเท้าด้วย)
 |
ติดสติกเกอร์สีน้ำเงินค่าผ่านประตูไว้กับตัวด้วย |
ก่อนอื่นจ่ายค่าผ่านประตูและรับสติกเกอร์มาติดตัวไว้ เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยแล้วขึ้นลิฟท์ไปชั้นบน เดินผ่านสะพานเชื่อมก่อนเข้าเขตวัด มองเห็นยอดเจดีย์และวิหารรายรอบอลังการด้วยสีทองวาววับไปหมด ไกด์พาเข้าทางประตูทิศตะวันออก (ประตูมี 4 ทิศ) เวลากลับก็กลับทางเดิม (เป็นความคิดของไกด์เองที่ต้องการให้เกิดศิริมงคลแก่พวกเรา เหมือนมากับตะวันและกลับกับตะวัน มีแต่ความสุกสว่างรุ่งเรือง)
 |
แผนที่บริเวณรอบองค์เจดีย์ |
สิ่งก่อสร้างในเขตวัดส่วนใหญ่เป็นไม้เกือบทั้งหมด จึงต้องมียามรักษาการณ์ 24 ชั่วโมง ป้องกันเหตุไฟไหม้
 |
บริเวณลานนมัสการ |
 |
วิหารตรงข้ามประตูทางเข้าแต่ละทิศ |
 |
ซุ้มพระพุทธรูป |
เมื่อเดินผ่านประตูเข้าไปแล้ว จะรู้สึกตาลายเพราะสีทองอร่ามตา มีพุทธศาสนิกชนเดินกันเต็มลาน บางกลุ่มก็นั่งสวดมนต์ นั่งสมาธิ คนมากมายแต่เราแทบไม่ได้ยินเสียงพูดคุย บรรยากาศนิ่งสงบและศักดิสิทธิ์จนรู้สึกสัมผัสได้ รู้สึกว่ามีแต่สิ่งดีงามอยู่รอบๆตัวเรา (จนไม่กล้าคิดเรื่องไม่ดี) พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ตามซุ้มและวิหารรอบเป็นองค์ใหญ่และสวยงาม ไกด์เลือกพาเดินชมและให้แวะนมัสการเป็นบางแห่ง เพราะบริเวณวัดกว้างขวางมาก มีวิหารและซุ้มพระพุทธรูปสวยงามเยอะแยะ (ถ้ามีโอกาสก็อยากจะกลับไปเดินดูอีก เพราะไม่ได้ดูโดยละเอียดได้แต่เดินผ่านไป)
 |
ไหว้พระประจำวันเกิดที่อยู่รอบๆองค์เจดีย์ |
ตอนก่อนเข้าวัดเราแวะซื้อดอกไม้ ธูปเทียน ไกด์สอบถามวันเกิดของแต่ละคน แล้วพาเดินไปไหว้พระประจำวันของแต่ละคน ระหว่างทางก็แวะดูรูปปั้นและมุมมองยอดเจดีย์ชเวดากอง
ยอดเจดีย์ชเวดากองเป็นเพชรเม็ดใหญ่ มีจุดตั้งกล้องให้ส่องดูเพชร แต่ไกด์เราพาไปดูตรงจุดที่มองด้วยตาเปล่าได้
 |
ยอดมหาเจดีย์ชเวดากอง (ถ่ายรูปจากรูปที่เขาจัดแสดงไว้) |
ขอเล่าเรื่องไหว้พระประจำวันเกิดต่อ เมื่อไหว้พระเสร็จแล้วเอาดอกไม้ไปแขวนถวายที่องค์พระพุทธรูป จากนั้นให้ตักน้ำสรงพระตามจำนวนอายุ (เราตักจนเมื่อยมือ) ส่วนสิงโตและเทวดาที่อยู่ตรงองค์พระให้รดน้ำอย่างละ 1 ขันเท่านั้น (ไม่ต้องแถมนะจ๊ะ)
 |
เจดีย์ชเวดากององค์แรกสร้าง |
 |
เจดีย์ชเวดากององค์ปัจจุบัน |
 |
ประตูเฉพาะชาวพม่าเท่านั้น |
เดินมานานชักเมื่อย ไกด์พามานั่งตรงหน้าเจดีย์องค์หนึ่ง เมื่อเหลียวไปทางขวาจะเห็นเจดีย์ชเวดากอง ไกด์เล่าว่า เจดีย์ที่เห็นอยู่นี้คือ เจดีย์ชเวดากององค์แรกที่พ่อค้าชาวมอญสร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระเกศา 8 เส้นที่พระพุทธเจ้าประทานให้และตรัสว่า เจดีย์ชเวดากองนี้จะได้รับการบรรจุสิ่งของของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ (องค์สุดท้ายในอนาคตคือ พระศรีอริยเมตไตรย)
พ่อค้าทั้งสองนำเส้นพระเกศากลับมาที่พม่า แต่ไม่รู้ว่าจะสร้างเจดีย์ที่ไหน เทวดาจึงมาเข้าฝันและชี้ทางให้ พ่อค้าจึงสร้างเจดีย์ชเวดากององค์แรกขึ้น ณ ที่แห่งนั้น ปรากฎว่าไม่ใช่สถานที่ที่ถูกต้อง เทวดาจึงมาชี้ทางให้ใหม่ ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตร พ่อค้าจึงสร้างเจดีย์ชเวดากององค์ปัจจุบันขึ้นมา (ส่วนเทวดาที่มาเข้าฝันชี้ทางคือ เทพทันใจประจำเจดีย์ชเวดากองนั่นเอง)
Cr ภาพและเรื่องโดย วาสนา วงศ์ชัยประเสริฐ
 |
เทพทันใจประจำมหาเจดีย์ชเวดากอง |
เรื่องหนึ่งที่ไกด์พูด(ภาษาอังกฤษผสมไทย) ได้ประทับใจมาก (แปลสรุปเอานะจ๊ะ) ว่า พุทธศาสนิกชนที่มีโอกาสมานมัสการพระมหาเจดีย์ชเวดากองนี้ มีจำนวนไม่มากนัก เพราะจะต้องมีความพร้อมทุกประการ ถือเป็นผู้มีบุญอย่างยิ่ง ที่มีโอกาสมานมัสการด้วยตัวเอง มองเห็นด้วยตา มีแขนขากำลังวังชาบริบูรณ์ มีเวลา มีเงิน มีสุขภาพแข็งแรง (เพื่อทีจะมาเดิน มานมัสการพระมหาเจดีย์ชเวดากอง) พุทธศาสนิกชนอีกมากมายไม่มีโอกาสมานมัสการ อาจเนื่องด้วยมีเงินแต่ไม่มีเวลา มีเงินมีเวลาแต่เดินไม่ไหวหรือตามองไม่เห็น มีสุขภาพแข็งแรงดีแต่ไม่มีเงิน ฯลฯ
 |
พระพุทธรูปในซุ้มที่เรียงรายรอบเจดีย์ |
 |
พระพุทธรูปในวิหารที่อยู่ตรงข้ามประตูทิศ |
ฟังแล้วปลื้มใจ อยากให้ทุกคนได้มีโอกาสมานมัสกา
รพระมหาเจดีย์ชเวดากอง แต่เผื่อใครยังมาไม่ได้ ก็ขอให้ร่วมอนุโมทนาบุญและดูรูปไปพลางๆก่อน (ความจริงอยากจะถ่ายรูปให้มากกว่านี้ แต่ความสวยในรูปไม่ได้อย่างตาเห็นเลย มองด้วยตาเปล่ามองไปทางไหนก็สวยจับใจไปหมด จนเลิกถ่ายรูปไปเอง) และขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยอำนวยอวยพรให้ทุกคนประสพแต่ความสุขความเจริญ มีสติปัญญานำทางไปสู่อนาคตอันดีงามด้วยเทอญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น